วันศุกร์ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ประวัติกลุ่มหมวกฟาง





Monkey D Luffy

ในวัยเด็กลูฟี่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านฟูซา ต่อมาเมื่อมีกลุ่มโจรสลัดกลุ่มหนึ่งได้เข้ามาในหมู่บ้าน ลูฟี่จึงได้พบกับกลุ่มโจรสลัดที่มีชื่อว่า กลุ่มโจรสลัดผมแดง ลูฟี่เป็นเพื่อนกับเหล่าบรรดาโจรสลัดกลุ่มผมแดง และอีกทั้งยังอยากจะขอเข้าร่วมกลุ่มโจรสลัดผมแดงอีกด้วย แต่ แชงคูส หัวหน้ากลุ่มโจรสลัดผมแดงไม่ต้องการให้ลูฟี่เข้าร่วม ช่วงระหว่างนี้เองลูฟี่ได้กินผลปีศาจ ที่ชื่อว่าผลโกมุโกมุ เข้าไป ทำให้ร่างกายมีลักษณะพิเศษคือ
มีคุณสมบัติเป็นยาง
ต่อมามีกลุ่มโจรภูเขาได้เข้ามาในหมู่บ้านและได้ไปมีเรื่องกับ กลุ่มโจรสลัดผมแดง แต่ว่าพวกแชงคูสไม่ตอบโต้คืน ซึ่งทำให้ลูฟี่ไม่พอใจมาก
หลังจากนั้นลูฟี่จึงไปแก้แค้นให้พวกแชงคูส แต่ว่าถูกกลุ่มโจรภูเขาจับตัวไป พวกแชงคูสจึงเข้าไปช่วย กลุ่มโจรภูเขาไม่สามารถสู้ได้ จึงจับตัวลูฟี่ไปเป้นตัวประกันเพื่อหนีออกทางทะเล แชงคูสได้ตามไปช่วยลูฟี่ออกมาได้แต่ตัวแชงคูสนั้นถูกสัตว์ร้ายในทะเลกัดแขนขาดไปข้างหนึ่ง
หลังจากนั้นไม่นาน กลุ่มโจรสลัดผมแดง ก็ได้เดินทางไปที่อื่นต่อและแชงคูสได้มอบหมวกฟางที่เขาใส่อยู่เป็นประจำให้ลูฟี่ และลูฟี่ก็ได้สัญญากับแชงคูสว่าจะก้าวข้ามแชงคูสไปอีกและจะเป็นเจ้าแห่งโจรสลัด
ต่อมาลูฟี่ได้อาศัยพลังของผลปีศาจนี้ฝึกฝนวิชาเพื่อให้แข็งแกร่งขึ้น เมื่อลูฟี่เติบโตเป็นหนุ่มได้ต่อสู้กับสัตว์ร้ายในทะเลและได้ออกเดินทางเเล้วหลักจากที่จะเดินทางลูฟี่ก็ได้พบกับโซโลเป็นคนเเรก นามิเป็นคนที่สอง อุซบคนที่สาม ซันจิคนที่สี่ ช๊อปเปอร์คนที่ห้า โรบินคนที่หก เเละคนสุดท้ายคือเเฟรงกี้ การที่ทุกคนจะออกผจญภัยก็เพราะพวกกลุ่มโจรสลัดหมวกฟางทุกคนต่างก็มีความฝันของตนเอง เพื่อหาทางเข้าสู่ แกรนด์ไลน์ สถานที่ที่เชื่อกันว่ามีวันพีซซ่อนอยู่ เเละเเล้วก็พร้อมออกผจญภัยโดยศึกเเรกที่หนักที่สุดในทะเลอีสท์บลูก็คือการเอาชนะโจรสลัดเงือกปลาที่ชื่อว่าอารอน ซึ่งก็สามารถเอาชนะมาได้เเล้วค่าหัวก็พุ่งสูงถึง30ล้านเบรี เมื่อเข้าเเกรนไลน์ก็ต้องช่วยนาเฟลตาลี บีบี เพื่อเอาอาณาจักรอาลาบาสต้าคืนมาซึ่งก็เป็นบ้านเกิดของบีบีซึ่งก็ถูกยึดการปกครองของคร็อกโคไดส์ เเล้วเมื่อปะทะเข้าจริงๆลูฟี่ถึงกับเเพ้ไปถึง2ครั้งรวดซึ่งไม่สามารถต่อกรกับผลทรายได้เลยเเต่ภายหลังลูฟี่ก็สามารถชนะได้เเล้วค่าหัวของลูฟี่ก้เพิ่มขึ้นเป็น100ล้านเบรี
หลังจากจบศึกที่อาลาบาสต้าก็ไปลุยที่เกาะเเห่งท้องฟ้าที่เป็นเหมือนโลกเเห่งความฝันที่ไม่เป็นจริงเเต่ก็ทำให้มันเป็นจริงในขณะนั้นเอง เกาะเเห่งท้องฟ้าก็เกิดศึกระหว่างเเชนเดียร์กับกองทัพเทพเเล้วลูฟี่ก็ต้องปะทะกับ ก๊อด เอเนลู ผู้ซึ่งมีพลังของผลปิศาจสายธรรมชาติก็คือผลโกโรโกโรเป็นผลสายฟ้า ซึ่งคนของเกาะบนท้องฟ้าไม่สามารถที่จะต่อกรได้เลยเเต่ก็สามารถฟ่าฟันมาได้ เเล้วก็ได้สิ่งตอบเเทนมาคือ ทองคำที่ภายหลังสามารถนำมาขายได้ถึง300ล้านเบรี เเละเมื่อลงมาพวกลุฟี่ก็ต้องมาปะทะกับกลุ่มของรัฐบาลโลกซึ่งเป็นกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า CP9 เป็นหน่วยงานลับของรัฐบาลโลกที่เเข็งเเกร่งที่สุดไม่มีใครที่สามารถต่อกรได้ เเล้วมีเสนาธิการที่ชื่อสเเปนดัมเเละลุจจิเป็นหัวหน้ากลุ่ม cp9 เเละเป็นชายที่มีพลังโดริคิถึง4000 เเต่ลูฟี่ก็สามารถเอาชนะมาได้อย่างทุลักทุเลเเล้วค่าหัวล่าสุดก็คือ 300ล้านเบรี

ค่าหัว

·30 ล้านเบรี หลังจากกำจัด บากี้ ดอนครีก และ อารอน
·100 ล้านเบรี หลังจากกำจัด ครอกโคไดล์
·300 ล้านเบรี หลังจากกำจัด CP9 ร็อบ ลุจจิ
·400 ล้านเบรี (หลังจากบุกอิมเพลดาวและเข้าร่วมสงครามของกองทัพเรือกับหนวดขาวที่มารีนฟอร์ด และไปตีระฆัง"อ๊อก เบล" 16 ครั้ง ในการไว้อาลัยกับการตายของเอส)


Roronoa  Zoro

โซโลตอนเด็กนั้นได้ฝึกฝนอยู่ที่หมู่บ้าน ชิโมสึกิ กับอาจารย์ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของเขานั่นเอง ซึ่งแม้กระทั่งยังเป็นแค่เด็ก แต่เค้าเก่งพอที่จะชนะผู้ใหญ่ได้ อย่างไรก็ตามก็มีอยู่คนๆหนึ่งที่เค้านั้นไม่สามารถชนะได้ นั่นก็คือ คุอินะ ซึ่งเป็นลูกสาว ของอาจารย์โซโลนั่นเองหลังจากที่ต่อสู้กันเป็นเวลานาน และสู้กันหลายต่อหลายครั้งกับคุอินะ เค้าก็ต้องพ่ายแพ้ทุกๆครั้งเลยโซโลนั้นเจ็บใจอย่างมากที่เค้าไม่สามารถเป็นนักดาบที่เก่งที่สุดได้ และในการต่อสู้ครั้งที่ 2000 นั้นเค้าก็ขอคุอินะด้วยดาบจริงๆ ซึ่งผลปรากฏว่า เค้าก็แพ้เช่นเดิมโซโลนั้นถึงกับร้องไห้และเสียใจต่อความพ่ายแพ้และบอกคุอินะว่าความฝันของเขาคือการที่เป้นนักดาบที่เก่งที่สุดในโลกเมื่อคุอินะได้ยินเข้า เธอก็บอกเค้าว่าเธอนั้นก็มีความฝันที่เหมือนกับโซโล และเคยพูดกับพ่อของเธอไว้แบบนี้เช่นกัน แต่ว่าพ่อบอกเธอว่า ผู้หญิงนั้นไม่มีทางเป้นนักดาบที่เก่งที่สุดในโลกได้หรอก และเมื่อเธอโตขึ้นฝีมือเธอก็จะลดลงตามวัยโซโลและคุอินะเลยสัญญาด้วยกันว่าจะต้องมีใครสักคนระหว่าง คุอินะ และ โซโล ที่จะต้องเป็นนักดาบที่เก่งที่สุดให้ได้วันต่อมาหลังจากคำสัญญา คุอินะ เกิดอุบัติเหตุขึ้นและเสียชีวิตลงไป เนื่องจากเธอตกบันไดตายโซโลซึ่งให้คำสัญญาไว้กับเธอนั้น ถึงกับเศร้า และโซโลนั้นเลยตัดสินใจอะไรออก เค้าเลยขออนุญาติอาจารย์เอาดาบคุอินะมาใช้ เพื่อที่จะให้ทั้งสองประสบความฝันที่สำเร็จด้วยกัน และเค้านั้นจะต้องเป็นนักดาบที่เก่งที่สุดให้ได้ ซึ่งดาบที่โซโลเอามาจากคุอินะนั้นมีชื่อดาบว่า วาโด อิจิมอนจิ โซโลซึ่งได้ฝึกฝนจากแต่ก่อนที่ใช้แค่สองดาบ แต่ตอนนี้นั้นกลายมาเป็นสามดาบ ฝึกหนักแต่ละท่าเพื่อที่สักวันความฝันของเขาจะเป็นจริงมีอยู่วันหนึ่งโซโล ได้ยินข่าวว่ามีนักดาบที่เก่งที่สุดในโลกอยู่ เค้านั้นเลยขออาจารย์ออกเดินทางจากหมู่บ้านของเขาเพื่อที่จะมาขอดวลกับนักดาบที่เก่งที่สุดให้ได้ ที่มีชื่อว่า มิฮอกแต่ทว่าการเดินทางของเขานั้นยากลำบากมากเพราะเค้ามีนิสัยที่ชอบหลงทางเป็นประจำเลยไม่สามารถไปหา มิฮอก ได้ ระหว่างทางที่โซโลตามหา มิฮอค อยู่นั้น เค้าก็ทำอาชีพเป็นนักล่าค่าหัว ซึ่งอาชีพนี้ก็เพื่อที่เค้าจะได้ดำรงชีวิตรักษาซ่อมดาบของเขาและมีชีวิตไปแต่ละวันได้ โซโลนั้นเดินทางและได้พวกมาสองคนที่มีชื่อว่า จอนนี่ และ โยซากุ ซึ่งทั้งสองคนนี้ก็เรียกเค้าว่าลูกพี่และเดินทางร่วมกับเค้าตลอดมาตอนจนโซโลเป็นนักล่าค่าหัวที่โด่งดังมีอยู่วันหนึ่ง กลุ่ม บาร๊อค เวิรก์ นั้นได้สั่งคนมาเอาตัวโซโลเข้ากลุ่มบาร๊อค เวิรค์ แต่ว่าโซโลนั้นก็ไม่ขอเข้าเนื่องจากต้องการตำแหน่งหัวหน้ากลุ่มเท่านั้นถึงจะเข้า หลังจากนั้นโซโลก็ฆ่าคนๆนั้นที่มาขอให้เข้ากลุ่ม ซึ่งชายคนนั้นก็คือ Mr.7 สมัยก่อนนั่นเอง
ในขณะที่ โซโล เดินทางต่อและได้หลงทางกับ จอนนี่ และ โยซากุ โซโลก็มาเจอเมืองของกองทัพเรือเข้า (เกาะเชลล์) โซโล นั้นได้ไปหาเรื่องเข้าซึ่งก็คือการฆ่าหมาจิ้งจอก!เลี้ยงของผู้พันมอรแกน โซโลเลยโดนจับและคิดจะปล่อยโซโลเมื่อครบ 1 เดือน (ซึ่งเป็นการโกหกนี่เอง) ขณะที่โซโลโดนจับนั้น ลูฟี่กับโคบี้ก็ได้เข้ามาช่วย ซึ่งโซโลนั้นตอนสุดท้ายเมื่อได้รู้ว่าเป็นการโกหกและรู้ว่าตัวเองยังไงก็ต้องเจอทหารเรือจับเป็นเป้าหมายอย่างแน่นอน และเพื่อที่จะเป็นนักดาบที่เก่งที่สุดให้ได้ เลยเข้าร่วมกับลูฟี่ ระหว่างการเดินทางนั้น โซโลนั้นได้เจอกับจอนนี่และโยซากุอีกครั้งหนึ่ง และในที่สุดสิ่งที่โซโลรอคอยก็มาถึงเมื่อเค้านั้นได้ไปที่บาราตีเอ โซโลนั้นได้เจอกับมิฮอคในที่สุด ซึ่งมิฮอคก็ได้มาพังเรือของดอนครีก โซโลเลยขอท้าสู้กับมิฮอคและเป็นการดวล กัน 1-1 แต่ทว่าโซโลนั้นสู้ไม่ได้สักนิดเลยและระดับแตกต่างกับมิฮอคมากเกินไป โซโลเลยยอมให้มิฮอคฟันตรงกลางตัวเพื่อเป็นแผลแห่งความพ่ายแพ้ ซึ่งมิฮอคถึงกับทึ่งในตัวโซโล และบอกว่าคงจะได้สู้กับโซโลอีกและขอให้โซโลเหนือขึ้นและปราบเค้าให้ได้โซโลนั้นพ่ายแพ้อย่างราบคาบแต่ก็ได้บอกกับลูฟี่ ว่า “ตั้งแต่นี้ไปเค้าจะไม่มีทางแพ้นักดาบเป็นครั้งที่ 2”!!! และแล้วการเดินทางของโซโลเพื่อที่จะเป็นนักดาบที่เก่งที่สุดและโค่นมิฮอคให้ได้ก้เริ่มต้นขึ้น...
ดาบประจำตัวที่โซโรพกไว้เสมอตั้งแต่แรกคือ ดาบสีขาว วาโดอิจิ มอนยิ (เป็นดาบที่จะคาบไว้ที่ปากเวลาใช้ท่าสามดาบ) ซึ่งเป็นดาบที่รับช่วงมาจากเพื่อนสมัยเด็กและสาบานว่าจะเป็นนักดาบที่เก่งที่สุดในโลก ดาบอื่นที่ใช้ในปัจจุบันอีกสองเล่มคือดาบสีแดง ซังได คิเทซึ เป็นดาบอาถรรพ์ที่ได้มาจากล็อกทาวน์ และ ดาบดำ ชูซุย ซึ่งได้มาจากการสู้กับซามุไรเจเนรัลซอมบี้ ริวมะ (ว่ากันว่าเป็นตัวเอกจากนิยายของ .โอดะ แต่เขากลับป่วยจนเสียชีวิต จึงได้เป็นแขกรับเชิญในร่างซอมบี้) ที่ธริลเลอร์บาร์ค จึงทำให้บรูค(สมาชิกเรือเธาด์ซัน ซันนี่คนล่าสุด) ได้เงาของเขากลับคืนมา
โซโลนั้นเคยพบกับเรือตรีหญิงแห่งกองทัพเรือ ทาชิงิ ซึ่งมีหน้าตาคล้ายกับคุอินะมาก แต่ในตอนนั้นพวกเขาไม่ระแวงเลยว่าอีกฝ่ายคือกองทัพเรือและโจรสลัด จนกระทั่งมารู้เอาในภายหลัง อย่างไรก็ตาม โซโรไม่กล้าประชันดาบกับเธอ และมักหลีกเลี่ยงอยู่เสมอเพราะไม่อาจลืมภาพคุอินะไปได้เป้าหมายที่สำคัญที่สุดของโซโรคือนักดาบอันดับหนึ่งของโลก จูลาคีล  มิฮอว์คเจ้าของฉายาตาเหยี่ยว โซโลเคยประชันกับมิฮอว์คมาครั้งหนึ่งเมื่อครั้งที่ลูฟี่กับเขาไปที่ร้านอาหารกลางทะเลที่ซันจิอยู่และพ่ายแพ้ หลังจากนั้นเป็นเวลานานที่เกาะชาบอนดี้ โซโลที่สะสมความเหนื่อยล้าไว้มากต้องเข้าสู้กับบาโซโลมิว คุมะและเกือบถูกฆ่าโดยคิซารุ แต่ถูกช่วยชีวิตไว้จากราชันย์นรกเรลี่ จากนั้นจึงถูกหนึ่งในเจ็ดเทพโจรสลัด บาโซโลมิว คุมะซัดกระเด็นไปที่ซากราชอาณาจักรเก่า ที่นั่นเขาได้พบกับมิฮอว์คอีกครั้ง ในเวลานั้นข่าวที่ลูฟี่สูญเสียเอสไปได้มาถึง โซโรจึงดึงดันจะออกจากเกาะไปพบลูฟี่ แต่เมื่อได้รับรหัสที่ลูฟี่ส่งมา จึงเปลี่ยนใจและกลับไปก้มหัวขอให้มิฮอว์คเป็นคนสอนวิชาดาบแก่ตนเอง มิฮอว์คเข้าใจนิสัยโซโลเป็นอย่างดี จึงรับปากสอนหลังจากแผลของโซโลหายดี

ค่าหัว

·60 ล้านเบรี โซโลได้ค่าหัวครั้งแรกนี้เนื่องจากว่า โซโลได้จัดการนักล่าค่าหัวไป 100 คนและปราบ Mr.1

·120 ล้านเบรี โซโลค่าหัวปัจจุบัน ซึ่งก็ได้จากการที่โซโลนั้นได้ไปถล่ม เอนิเอส ร๊อบบี้ พร้อมกับ กำจัด CP9 คาคุ


Nami

นามิเป็นลูกบุญธรรมของ เบลเมล ซึ่งก็มี นามิ และก็ โนจิโกะ ทั้ง 3 นั้นได้อยู่กันเป็นเหมือนครอบครัว แต่แล้ววันหนึ่ง กลุ่มโจรสลัดอารองก็มายึดเกาะ โคโคยาชิ ที่ทั้ง 3 อยู่นั่นเอง ซึ่ง อารองก็ให้ทุกคนในเกาะ โคโคยาชิ ต้องจ่ายเงินภาษีให้อารอง เพื่อที่ทุกคนจะได้มีชีวิตอยู่ต่อไปเบลเมลนั้นซึ่งไม่สามารถจ่ายภาษีไหว ซึ่งเหตุการณ์มันเกิดขึ้นเนื่องจากกลุ่มอารองไปเจอ ลูกของเบลเมลเข้านั่นเอง เนื่องจากที่เบลเมลนั้นไม่สามารถบอกว่า นามิ และ โนจิโกะ ไม่ใช่ลูกของเธอเพราะเธอสนิทสนมกับทั้ง 2 จนเป็นเหมือนครอบครัวเดียวกันไปแล้ว เลยไม่สามารถจ่ายภาษีให้อารองเพียงพอ เลยโดนอารองทำตัวอย่างให้คนอื่นๆและชาวเมืองได้เห็นว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อไม่ยอมจ่ายเงินให้อารองเพียงพอ หรือไม่ยอมจ่ายเงินให้ ซึ่งเบลเมลนั้นก็ต้องโชคร้ายอย่างมากและโดนอารองนั้นยิงปืนใส่จนเสียชีวิตไป ซึ่งเสียชีวิตไปต่อหน้าต่อตาของทั้ง นามิ และ โนจิโกะ ด้วยนามินั้นก็โดนจับตัวไปและยอมให้มาเป็นพวกเดียวกับกลุ่มอารอง เนื่องจากว่าอารองเห็นฝีมือนามิในการทำแผนที่นั่นเอง และอารองยังให้ข้อเสนอนามิอีกว่า ถ้าเกิดนามิ สามารถเอาเงิน 100 ล้านเบรี มาให้เค้าได้นั้น เค้าก็จะยอมปล่อยให้หมู่บ้านโคโคยาชิ ของนามิเป็นอิศระนามิเลยตัดสินใจใช้ชีวิต 8 ปีเพื่อสร้างแผนที่ให้อารองและหาเงิน100 ล้านเบรีโดนการไปขโมยจากโจรสลัดกลุ่มอื่นมาให้อารองนั่นเอง
หลังจากที่นามินั้นได้ไปเจอ ลูฟี่ ที่เมือง โอเร้นจ์ ทาวน์ (เหตุการณ์ช่วงบากี้นั่นเอง) และได้เข้ากลุ่มของลูฟี่อย่างชั่วคราวเพื่อที่จะได้เอาสมบัติและเงินต่างๆมาให้อารองนั่นเองหลังจากที่ท่องไปเรื่อยๆกับ ลูฟี่ จนถึงช่วง บาราตีเอ นามินั้นก็เลยตัดสินใจขโมยเรือและทรัพย์สมบัติของลูฟี่ เมื่อกลุ่มลูฟี่นั้นได้ไปกินอาหารที่ บาราตีเอ นั่นเอง ซึ่งหลังจากกลับมาที่ อารอง ปาร์ค แล้วนั้นเธอก็เหลือทรัพย์สมบัติอยู่แค่ 7 ล้านเบรีแล้วนั่นเองซึ่งใกล้จะสมหวังจากการปลดปล่อยหมู่บ้าน โคโคยาชิ จากอารองแล้วแต่น่าเสียดายที่อารองนั้นได้ให้ เนสุมิ ซึ่งเป็นทหารเรือไปขโมยเงินนามิ เพื่อที่อยากจะให้นามิอยู่กับกลุ่มอารองต่อไปโดยที่เค้าไม่เสียสัญญาที่ให้ไว้กับเธอแต่หลังจากที่กลุ่มลูฟี่ มาที่ อารอง ปาร์ค นั้นก็ได้ตัดสินใจที่จะช่วยนามิ เข้าไว้ ซึ่ง ลูฟี่ โซโล อุซป และ ซันจิ ก็สามารถโค่นกลุ่มอารองลงไปได้ในที่สุด
หลังจากที่ปราบกลุ่มอารองสำเร็จแล้ว นามินั้นก็ได้ทำสลักอันใหม่แทนอันเก่าของเธอนั่นเอง ซึ่งก็คือสัญลักษณ์ ส้ม ที่มาจากต้นส้มของ เบลเมล นั่นเอง และแล้วนามินั้นตอนสุดท้ายก็ได้ตัดสินใจจะไปกับกลุ่มลูฟี่ ซึ่งก็ได้ลาจากกับทุกๆคนในเมือง โคโคยาชิ พร้อมกับการขโมยนาฬิกาทุกๆคนไป ซึ่งก็ได้มาเป็นต้นหนเรือ ของกลุ่มโจรสลัดหมวกฟางนั่นเอง...

ค่าหัว

·16 ล้านเบรี     นามิได้ค่าหัวครั้งนี้เนื่องจากการที่นามินั้นได้ไปปราบ CP9แคลิเฟอร์




Usopp

อุซปนั้นเป็นลูกของ ยาซป ซึ่งก็คือคนในกลุ่มแชงคูสนั่นเอง ยาซปนั้นได้ไปกับแชงคูสแล้วปล่อย อุซป และแม่ของอุซปเอาไว้ เนื่องจากเพราะเหตุนี้ อุซปเลยต้องโกหกว่าโจรสลัดจะกลับมาแล้ว แม่เพราะแม่ของอุซปเป็นไข้ขึ้น อุซปหาวิธีที่จะช่วยและการพูดโกหกว่าโจรสลัดหรือพ่อของอุซปกลับมาแล้วนั้น เพื่อที่จะช่วยแม่ของเค้าหายจากการเป็นไข้ หลังจากที่แม่ของเค้าเสียชีวิตไป อุซปนั้นก็ไป หา คายะ ซึ่งก็ไปเล่าเรื่องสนุกๆและเรื่องโกหกอย่างเช่น เค้าเป็นโจรสลัดที่ห้าวหาญและมีลูกน้องในกลุ่มก็คือเด็ก 3 คน นินจิน พีมัง และ เจ้าหอมใหญ่ต่อมาหลังจากที่กลุ่มลูฟี่ได้เข้ามา อุซปนั้นก็ยังใช้ชีวิตในการโกหกตามเคย แต่ว่าเพราะมีกัปตัน คุโระอยู่นั่นเองซึ่งอยู่กับคายะมา 3 ปี แล้วคิดวางแผนที่จะฆ่า คายะ อุซปรู้เข้าเลยหาวิธีบอกคายะเกี่ยวกับเรื่องนี้ และในที่สุดกลุ่มลูฟี่ และอุซป ก็ต่อสู้กับกลุ่มคุโระ หลังจากที่ลูฟี่ปราบคุโระได้แล้วนั้น อุซปก็ออกจากกลุ่มโจรสลัดอุซป และกำลังจะเดินทางออกทะเลด้วยตนเองในการผจญภัยของ เขา แต่ทว่าลูฟี่ก็ได้ชวนเค้าให้มาเข้ากลุ่ม และให้ฉายาอุซปว่า สไนเปอร์ ในกลุ่ม...

ค่าหัว

·30 ล้านเบรี  ความจริงแล้วนั้นค่าหัวของอุซปไม่มีหรอก แต่ที่มีก็คืออีกร่างหนึ่งของอุซปนั่นก็คือ โซเงคิงนั่นเอง ซึ่งโซเงคิงมีค่าหัวถึง 30 ล้านเบรี และมีฉายาว่า “เจ้าแห่งการซุ่มยิง” ฉายานี้ได้มาจากโซเงคิง ได้ช่วยโรบินจากการยิงแบบสุดยอดแห่งความแม่นใส่พวกทหารเรือในตอน เอนิเอส ร๊อบบี้





Sanji


ซันจิ ตอนสมัยอายุ 10 ขวบนั้นเค้าได้ทำงานอยู่ในเรือสำราญ ที่มีชื่อว่า โอบิท ซึ่งก็มาเรียนเป็นกุ๊กนั่นเอง แต่ทว่ามีอยู่วันหนึ่ง เซฟ ได้บุกเข้ามายึดเรือ และแล้วเรือของเซฟ และเรือสำราญที่ซันจิอยู่ก็ได้เกิดการต่อสู้กันแต่เนื่องจากซันจิ ยอมสู้เพื่อไม่ให้ตัวเองถูกฆ่านั้น ก็เจอเซฟอัดเข้าไปเต็มๆ และซันจิก็ได้พูดออกมาว่า สักวันหนึงจะต้องหาออลบลูให้พบ แต่ทว่าในช่วงนั้นมีพายุที่หนักมากจนทำให้ทะเลฟาดใส่เรือจนทำให้ซันจินั้นตกลงไปในทะเล เซฟนั้นซึ่งได้ยินความฝันของซันจินั้น รีบเข้าไปช่วยซันจิที่ตกลงไปในทะเลนั่นเองและแล้วหลายวันผ่านไปทั้งสองก็มาเกยตื้นอยู่ที่ โขดหินแห่งหนึ่งซึ่งก็ต้องรอจนกว่าจะมีใครมาช่วย เซฟนั้นได้ให้อาหารซันจิสำรองไว้แต่ทว่าสำหรับเซฟนั้นกลับไม่มีอาหารเหลือเลยสักนิดมีแต่ทรัพย์สมบัติ เซฟซึ่งให้อาหารซันจิไปบอกว่าช่วยไปอยู่อีกฝั่งรอดูเรือด้วยละกันและเมื่อเจอก็กลับมาบอกด้วย เวลาได้ผ่านไป 70 วัน ซันจิซึ่งไม่เหลืออาหารแล้วนั้น ได้มาดูเซฟว่าเค้าตายรึยังแต่พอมาดูอีกทีก็ยังเห็นถุงที่ซันจินึกว่าเต็มไปด้วยอาหารเหลืออยู่นั่นเอง เลยเตรียมพร้อมที่จะมาขโมยเอาไปกิน แต่พอได้มาเปิดดูแล้วนั้นเต็มไปด้วย ทรัพย์สมบัติ ซันจิถึงกับอึ้งกับสิ่งที่ตัวเองได้เห็นแล้วถามเซฟว่าเค้าอยู่รอดมาได้อย่างไร แต่พอมาดูความเท็จจริงแล้วนั้น ซันจิก็แทบไม่เชื่อสายตา เพราะว่าเซฟนั้นได้กินขาตัวเองไปแล้วนั่นเอง ซันจิเลยถามเซฟว่าทำไมเค้าถึงช่วย ซันจิ เซฟตอบว่า “เพราะแกกับฉันมีความฝันเดียวกันน่ะสิ” 15วันผ่านไปอีก ในที่สุดก็มีเรือเข้ามาช่วยทั้ง 2 นั่นเอง และแล้วทั้งซันจิและเซฟก็ช่วยกันเปิดภัตตาคาร บาราตีเอขึ้นมาหลังจากนั้นซันจิก็ช่วยกำจัดโจรสลัดที่มาก่อกวน ภัตตาคาร บาราตีเอ ตลอดมาเพื่อตอบแทนบุญคุณของเซฟ แต่อย่างไรก็ตามเค้าก็รู้ว่าไม่มีทางตอบแทนบุญคุณได้หมดหรอกหลังจากนั้นเวลาก็ผ่านไปจนกระทั่งกลุ่มโจรสลัดกลุ่มหนึ่งได้เข้ามาและจะมายึด ภัตตาคาร บาราตีเอ นั่นก็คือ กลุ่มโจรสลัด ดอนครีกนั่นเอง ซันจิซึ่งต่อสู้กับกลุ่มดอนครีก นั้น ได้มีลูฟี่ช่วยหนุนไว้ตลอด และลูฟี่นั้นก็ได้ช่วยทำให้กลุ่มดอนครีกพ่ายแพ้ไปในยังที่สุด ลูฟี่นั้นขอให้ซันจิมาเป็นกุ๊กในกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง แต่ทว่าซันจิก็ไม่ยอมไป จนกระทั่งตอนสุดท้าย เซฟได้เตือนซันจิว่าไปทำความฝันของทั้งคู่ให้สำเร็จ นั่นก็คือการหาออลบลู นั่นเองหลังจากที่ซันจิรู้เข้าก็ขอบคุณ เซฟเป็นอย่างมากที่ดูแลเลี้ยงเขามาจนถึงปัจจุบันนี้ และแล้วซันจิซึ่งได้เข้ามาเป็นกุ๊ก ของกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง ก็ได้เดินทางไปเพื่อเป้าหมายที่เค้าฝันไว้ นั่นก็คือ ตามหาออลบลู...

ค่าหัว

  • 77 ล้านเบรี  ซันจิได้ค่าหัวครั้งนี้ก็เนื่องจากว่า ได้ไปถล่ม เอนิเอส ร๊อบบี้ พร้อมกับ กำจัด CP9 จาบรา แต่ทว่าเนื่องจาก ช่างกล้องลืมเปิดเลนส์เอาไว้เลยไม่ได้ถ่ายรูปซันจิ เลยต้องวาดรูปภาพซันจิขึ้นมาแทน



Tony Tony Chopper




ช๊อปเปอร์นั้นเป็นกวางเรนเดียร์ ที่ถูกทอดทิ้งและขับไล่มาตั้งแต่เกิด เพราะว่ามีจมูกที่เป็นสีฟ้าแตกต่างจากกวางตัวอื่นๆ มีอยู่วันหนึ่ง ช๊อปเปอร์ ได้ไปกินผล ฮิโตะ ฮิโตะ เข้าไปซึ่งก็ทำให้เค้าสามารถแปรงร่างเป็นมนุษย์ได้ แต่อย่างไรก็ตามการที่เค้าแปลงร่างเป็นมนุษย์นั้นก็ไม่เหมือนมนุษย์เลยสักนิด พอช๊อปเปอร์ได้ไปในหมู่บ้านในเกาะดรัม นั้น ก็ต้องถูกคนในหมู่บ้านยิงใส่เขา และถูกเตะไล่ออกมาจากหมู่บ้านเพราะคนในหมู่บ้านนึกว่าเขาเป็นมนุษย์หิมะหลังจากที่เขาได้ถูกขับไล่ออกจากทั้ง มนุษย์ และ กวางนั้น วันหนึ่งชายคนหนึ่งที่มีนามว่า ด๊อกเตอร์ ฮิลรุก ก็มาเจอ ช๊อปเปอร์ในขณะที่เค้ายังบาดเจ็บอยู่ซึ่งด๊อกเตอร์ ฮิลรุกนั้นก็เป็นคนตั้งชื่อ ช๊อปเปอร์ ว่า โทนี่ โทนี่ ช๊อปเปอร์ นั่นเองและเลี้ยงดูช๊อปเปอร์จนกว่า แผลของช๊อปเปอร์จะหายดี
ช๊อปเปอร์นั้นได้เริ่มสนิทกับ ด๊อกเตอร์ ฮิลรุก เป็นอย่างมาก จนกระทั่ง...
 1 
ปีผ่านไป แผลของช๊อปเปอร์นั้นได้หายเรียบร้อย และในที่สุด ด๊อกเตอร์ ฮิลรุค ก็ไล่ช๊อปเปอร์ออกไปเนื่องจากเค้าไม่ต้องการให้ช๊อปเปอร์อยู่ต่อแล้ว เนื่องจากว่าเค้าไม่อยากให้ช๊อปเปอร์รู้ว่าเค้าจะตายในอีกไม่นานนี้ด้วยโรคๆ หนึ่งที่ไม่สามารถเยียวยาได้ ช๊อปเปอร์ ได้ออกไปก็จริงแต่ทว่าก็ไปได้ยินการพูดคุยระหว่าง ด๊อก ทรีนู กับ ด๊อกเตอร์ ฮิลรุคและได้ยินเรื่องการตายเข้า ช๊อปเปอร์ทันใดนั้นรีบเข้ามาดูหนังสือและหา สัญลักษณ์กะโหลกไขว้เพื่อที่ว่า ด๊อกเตอร์ ได้บอกเค้าว่า สัญลักษณ์กะโหลกเป็นสิ่งที่ดีและถูกต้อง ช๊อปเปอร์เลยออกเดินทางไปหายารักษานั่น หลังจากที่หาเจอเข้า ช๊อปเปอร์ก็ได้กลับมาให้ ด๊อกเตอร์ ฮิลรุคในสภาพที่ย่ำแย่อย่างมากเนื่องจากฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ ด๊อกเตอร์ ฮิลรุค ซึ่งเห็นใจช๊อปเปอร์และรู้ว่ายังไงเค้าก็ต้องตายเลยกินเห็ดพิษนั่นเข้าไปเพื่อตอบแทนน้ำใจที่ดีของช๊อปเปอร์ที่ไปหามาให้ หลังจากนั้น อีกไม่นาน ด๊อกเตอร์ ฮิลรุคได้ถูกเรียกไปจากวาโปลู และพอช๊อปเปอร์ได้รู้เข้าจากด๊อกทรีนูว่า ด๊อกเตอร์ได้กินเห็ดพิษเข้าไปเลยรีบวิ่งตามไปช่วย แต่เนื่องจากมันสายไปแล้ว เพราะด๊อกเตอร์ได้กินยาระเบิดตัวเองตายไปเสียแล้ว ช๊อปเปอร์ถึงกับเศร้าและช๊อกเป็นถึงที่สุด หลังจากนั้นช๊อปเปอร์เลยบอกด๊อกทรีนูว่า “ต้องการจะเป็นหมอที่รักษาทุกโรคให้ได้ เพราะโลกนี้ไม่มีโรคที่ไหนที่จะรักษาหายไม่ได้” ด๊อกทรีนูซึ่งเห็นใจช๊อปเปอร์เลยรับเลี้ยงดูช๊อปเปอร์และสอนวิชาแพทย์ให้ช๊อปเปอร์หลังจากนั้นมา หลังจากนั้นเวลาได้ผ่านไป 6 ปีจนกระทั่งกลุ่มหมวกฟางได้มาถึง ช๊อปเปอร์นั้นไม่เชื่อใจพวกลูฟี่เลยสักนิดเนื่องจากว่าพวกนี้จ้องที่จะกินช๊อปเปอร์อยู่ตลอดเวลา แต่พอช๊อปเปอร์ได้โชว์วิชาการแพทย์ของเขาและฝีมือในการต่อสู้ของเขานั้น ก็ทำให้ลูฟี่สนใจเค้าเป็นอย่างมากและชักชวนเค้าให้มาอยู่ในกลุ่ม หลังจากที่ ลูฟี่ ได้ปราบวาโปลูไปได้แล้วนั้น ช๊อปเปอร์นั้นก็ตัดสินใจเข้ากลุ่มของลูฟี่ เพื่อที่จะได้ศึกษาทางแพทย์ได้ไกลมากขึ้นและเพื่อที่ความฝันของเค้าจะได้เป็นจริงขึ้นมาและสืบทอดเจตนารมณ์ของด๊อกเตอร์ฮิลรุคต่อไป...

ค่าหัว

·                     50 เบรี  ค่าหัวของช๊อปเปอร์นั้นถือว่าน้อยนิดมากเนื่องจากว่า ทางรัฐบาลนึกว่าช๊อปเปอร์เป็นแค่!เลี้ยงและไม่ได้คิดว่าช๊อปเปอร์เป็นคนปราบ CP9 คุมาโดริ






Nico  Robin


นิโค โรบิน เกิดที่เกาะ โอฮาร่าและพ่อแม่ของเธอก็เป็นนักโบราณคดีด้วย แม่ของเธอนั้นที่มีชื่อว่า นิโค โอลเวีย ได้ออกไปในทะเลปล่อยโรบินไว้คนเดียวในเกาะตอนเธออายุแค่ 2 ขวบ ซึ่งก็ฝากให้พี่ชายของ โอลเวีย ดูแลไว้ ซึ่งภรรยาของเขาก็คือ โรจิ สภาพของโรบินช่างย่ำแย่มากเพราะมีแต่คนรังเกียจนิโค โรบินเนื่องจากว่าเธอนั้นเป็นปีศาจที่ได้กินผลปีศาจ ฮานะ ฮานะ[ผลิดอก] เข้าไป เลยไม่มีใครอยากเข้าใกล้ด้วยเธอนั้นซึ่งมีแต่ความโศกเศร้ากับสิ่งต่างๆก็ได้เข้าไปในต้นไม้แห่งปัญญาซึ่งเธอได้ไปอ่านหนังสือ ซึ่งด๊อกเตอร์ โครบาก็เห็นเข้า และเธอก็ได้รับอนุญาติให้สามารถอ่านหนังสือต่างๆที่นี่ได้ฟรี พอเธอ อายุ 8 ขวบนั้นเธอได้ผ่านข้อสอบโบราณคดี และได้รางวัลตราของนักวิชาการเป็นการตอบแทน หลังจากนั้น โรบินก็เลยอยากจะรู้ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ ที่ว่างเปล่าเพราะเธอได้รางวัลตราแล้ว แต่ทว่า ด๊อกเตอร์ โครบาก็ต้องห้ามเธอและสั่งแบนเธอจาก ต้นไม้แห่งปัญญาถ้าเธอเข้าไปดูหรือรู้เรื่องเกี่ยวกับ ประวัติศาสตร์ที่ว่างเปล่า เพราะว่าเธอยังเด็กแล้วอีกอย่างใครที่รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ก็ถือว่าเป็นคนผิดกฏหมายต่อโลก โรบินซึ่งรับไม่ได้เลยวิ่งหนีร้องไห้ออกไป และได้ไปพบกับ ยักษ์เซาโร เข้าที่มาเกยฝั่งในเกาะโอฮาร่า หลังจากที่โรบินเริ่มตีสนิทกับ เซาโรนั้น เซาโรก็ได้รู้ว่าที่นี่เป็นเกาะโอฮารา และได้บอกโรบินให้คนอื่นรู้ว่า ตอนนี้พวกกองทัพเรือกำลังจะมาที่เกาะแห่งนี้แล้ว เพื่อมาจัดการพวกนักวิชาการของเกาะนี้ทุกคน โรบินนั้นได้วิ่งไปที่ต้นไม้แห่งปัญญา ในขณะที่ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังวิ่งผ่านกันกับแม่ของเธอ หลังจากที่เธอมาถึงต้นไม้แห่งปัญญา เธอนั้น ก็รู้ว่าคนอื่นรู้กันหมดแล้วเกี่ยวกับเรื่องที่ กองทัพเรือมาที่นี่ แต่เธอก็ถามทุกๆคนว่า แม่ของเธอมารึเปล่า ซึ่งโครบาก็ปฏิเสธ กลับไปว่าแม่จะมาอยู่ที่นี่ได้ไง หลังจากที่พวกรัฐบาลได้บุกเข้ามาในต้นไม้แห่งปัญญา พวกรัฐบาลก็จับทุกๆคนออกไปและเตรียมพร้อมที่จะเผาหลักฐานทุกอย่างทิ้งซะ ในขณะที่โรบินนั้นได้เห็นสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้น เธอก็เริ่มรู้สึกว่าผู้หญิงคนนั้นต้องเป็นแม่ของเธออย่างแน่นอน และแล้วในทีสุดโรบินก็เจอกับแม่ของเธอในที่สุด แต่ทว่า...

มันก็เป็นช่วงเวลาอันสั้นๆ เพราะว่า โอลเวียได้บอกให้เซาโร พาโรบินหนีออกไปและให้โรบินจงมีชีวิตอยู่ต่อไป หลังจากที่เซาโร พาโรบินมาที่ปลอดภัยแล้วนั้น เซาโรก็ต้องเจอกับ อาโอคิยิระหว่างทางและถูกกักกั้นเอาไว้พร้อมกับยอมเสียสละและบอกโรบินว่าสักวันจะต้องมีพรรคพวกและต้องรอโรบินอยู่ที่ไหนสักแห่งอย่างแน่นอน โรบินนั้นได้เจอสิ่งโหดร้ายต่างๆ ตั้งแต่บัสเตอร์ คอล และการจากของโอลเวีย และนักโบราณดดีทุกๆคน พร้อมกับเซาโร และเกาะที่เธออาศัยอยู่ ทุกอย่างได้พินาศไปหมด แถมเธอยังได้ถูกตั้งค่าหัวไว้ด้วย เนื่องจากว่าเธอนั้นสามารถอ่านโพเนกรีฟได้และเป็นคนๆเดียวที่หนีรอดจากเหตุการณ์นั้นได้ด้วยเช่นกัน โรบินนั้นได้ไปพักอาศัยอยู่ในที่ต่างๆ แต่ตอนสุดท้ายแล้ว เธอก็ถูกหักหลังและถูกไล่ล่าตลอดเวลา จนกระทั่งเธอมาอยู่กับกลุ่มบาร๊อคเวิร์ก ที่ซึ่งคร๊อกโคดายน์นำข้อเสนอให้เธอ เพราะเธออ่านโพเนกรีฟได้หลังจากเวลาผ่านไปจนในที่สุดพวกลูฟี่ได้มาถึงเกาะ อลาบาสต้า เธอนั้นซึ่งใจจริงไม่ชอบ คร๊อกโคดายน์อยู่แล้วก็ได้ช่วยเหลือลูฟี่ ในขณะที่ลูฟี่ได้แพ้คร๊อกโคดายน์ในรอบแรก จนกระทั่งในที่สุดเธอได้มาเจอโพเนกรีฟ ในฐานลับใต้ดินของอราบาสต้าแต่แล้วเธอก็ไม่บอกสิ่งที่แท้จริงให้คร๊อกโคดายน์เลย จนทำให้คร๊อกโคดายน์ต้องฆ่าเธอทิ้งซะ แต่เพราะลูฟี่ ได้เข้ามาต่อสู้กับคร๊อกโคดายน์นั้น ในที่สุดลูฟี่ก็สามารถโค่นคร๊อกโคดายน์ได้ แต่เพราะโรบินนั้นไม่มีจิตใจที่จะมีชีวิตต่อแล้ว เพราะไม่เหลืออะไรแล้ว แต่ลูฟี่ก็ได้ช่วยเหลือเธอจากเหตุการณ์ชั้นใต้ดินถล่มหลังจากที่ลูฟี่ซัดคร๊อกโคดายน์ปลิวออกไปโรบินซึ่งได้ถูกช่วยเหลือไว้นั้น ในที่สุดเธอก็เข้าร่วมกับกลุ่มลูฟี่เนื่องจากลูฟี่ปล่อยเธอให้มีชีวิตไว้ และแล้วการผจญภัยของโรบินเพื่อที่จะไปหาโพเนกลีฟที่แท้จริงและค้นหาประวัติศาสตร์ที่ว่างเปล่าก็ได้เริ่มต้นขึ้น....

ค่าหัว                    

 79 ล้านเบรี  โรบินนั้นได้ค่าหัวนี้เนื่องจากหนีรอดจาก เกาะโอฮาร่ามาได้และยังเป็นนักโบราณคดีอีกด้วย
  • 80 ล้านเบรี โรบินได้ค่าหัวล่าสุดครั้งนี้เนื่องจากว่า ได้รอดชีวิตกลับไปจาก เอนิเอส ร๊อบบี้


Franky

แฟรงกี้นั้นเกิดที่ เซาท์บลู โดยเป็นลูกโจรสลัดคนหนึ่งและมาอยู่ที่แกรนด์ไลน์ตอนอายุของเค้าพึ่ง 4 ขวบเท่านั้นหลังจากที่ถูกทอดทิ้งในตอนอายุ 10 ขวบ เขาก็ใช้ชีวิตเป็นช่างซ่อมเรืออยู่กับ ทอม ซึ่งทอมนั้นก็สร้างเรือของโกลด์ ดี โรเจอร์ นั่นเอง ที่มีชื่อว่า โอโร แจ๊คสัน แฟรงกี้และไอซ์เบิรกได้สร้างรถไฟทะเล ขึ้นมาหลังจากที่ สแปนดัม ได้แกล้งทอม แล้วจะเอา แบบแปลน Pluton มา หลังจากที่ ทอมไม่ยอมให้ Pluton ไป สแปนดัมเลยหาวิธีเอาเรือรบของแฟรงกี้ที่แฟรงกี้สร้างขึ้นมา มาโจมตีคดีในช่วงนั้น ทำให้ทอม ต้องกลายเป็นนักโทษแล้วโดนจับไปที่ เอนิเอส ร๊อบบี้แล้วสั่งประหารซะเนื่องจากสร้างเรือของ โกล์ด โรเจอร์ แล้วเอาโทษที่โดนเรือรบยิงเป็นข้อเสียสละแทนในการสร้างรถไฟทะเล หลังจากนั้น แฟรงกี้ซึ่งไม่ยอมแพ้และต้องการทอมกลับมาตอนที่ทอมถูกโดนลักพา ตัวไปที่ เอนิเอส ร๊อบบี้ แฟรงกี้ก็เลยโดนรถไฟทะเลชนบาดเจ็บขั้นสาหัสสุดๆ แต่แฟรงกี้นั้นก็ไม่ยอมแพ้เลยสร้างส่วนหน้าของร่างกาย ตนเองให้เป็นมนุษย์ไซบอร์ค หลังจากนั้น แฟรงกี้ หรือ คาติฟูแลม ก็กลับมาที่ วอเตอร์ 7 ซึ่งก็ได้มาอยู่และสร้างกลุ่ม แฟรงกี้ แฟมิลี่ ขึ้นมาและทำหน้าที่แยกชิ้นส่วนเรือตลอดมา จนกระทั่งกลุ่ม ลูฟี่มาถึง วอเตอร์ 7 นั่นเอง... หลังจากเหตุการณ์ เอนิเอส ร๊อบบี้ จบลง แฟรงกี้นั้นได้บอกกับกลุ่มลูฟี่ว่าเอาเงิน 200 ล้านเบรีของลูฟี่เอาไปซื้อต้นไม้ อดัม เพื่อที่จะเอามาสร้างเรือ และเรือนี้ก็คือเรือ เธาซัน ซันนี่ นี่เอง

ค่าหัว

  • 44 ล้านเบรี    สาเหตุที่ แฟรงกี้มีค่าหัวถึง 44 ล้านก็เพราะว่าเค้าเป็นคนไปทำลาย เอนิเอส ร๊อบบี้ กับกลุ่มหมวกฟาง และกำจัดฟุคุโร่ 1 ใน CP9 บวกกับ เค้าเป็นคนที่มีแบบแปลนในตอนแรกครับ แต่เผาทิ้งไปแล้ว








Brook

ปรากฎครั้งแรก ในแกรนด์ไลน์ที่ “ฟลอเรี่ยน ไทรแองเกิ้ล” และเขาเคยเป็น พวกพ้องของกลุ่มโจรสลัด รัมบะ ซึ่งเป็นกลุ่มของนักดนตรี มารวมตัวกัน และล่องเรือไปตามแกรนด ไลน์ จาก ทะเล เวสท์ บลู มา มากกว่า 50 ปีแล้ว และได้ถูกตามโดย ลาบูน ซึ่งเป็นปลาวาฬ และเป็นปลาวาฬที่ติดใจ อาโฟร บรูคสัญญาว่า เมื่อไป ล่องเรือที่ แกรนด์ ไลน์แล้ว เขาจะต้องกลับไปเจอ ลาบูนแน่ๆ และ ให้ลาบูนรอที่เขา รีเวิร์ส เมาน์เทน เพราะว่า แกรนด์ ไลน์เป็นที่ๆอันตราย เกินไปสำหรับ ปลาวาฬตัวน้อยๆ หลังจากที่ได้ไปที่ ฟลอเรี่ยน ไทรแองเกิ้ล กลุ่มโจรสลัดรัมบะ ถูกโจมตี จากศัตรู ที่ไม่รู้จัก เพราะเขากิน ผล โยมิ โยมิ โนมิ ซึ่งเป็นผลปีศาจชนิดหนึ่ง ซึ่งทำให้ เกิดใหม่ได้ หลังจากที่ได้ตายไปครั้ง หนึ่งแล้ว วิญญาณของ บรูคจึงถูก ย้อนกลับมาที่แกรนด์ไลน์ และเขาได้หลงทางเนื่องจาก หมอกหนาของ ฟลอเรี่ยน ไทรแองเกิ้ล หลังจากนั้น เขาก็เจอตัวของเขา ซึ่งไม่เหลืออะไรแล้ว นอกจาก โครงกระดูก และ ผมอาโฟร จึงได้ เป็น โครงกระดูกที่เดินได้ ก่อนที่หมวกฟางจะมาถึง เขาถูกขโมยเงาโดย “เกกโค โมเรีย” ซึ่งขโมย เงาของบรูคไปไว้ที่ ซามูไรที่ชื่อว่า ริวมะ และเนื่องจาก เขาไม่สามารถโดน แสงอาทิตย์ได้เพราะ เขาไม่มีเงา เขาจึง หลบอยู่ใน ฟลอเรี่ยน ไทรแองเกิ้ล ที่มีหมอกหนา บังแสง อาทิตย์อยู่ และหลังจากนั้น เขาก็ได้พบ กันกลุ่มโจรสลัด หมวกฟาง  บรูคไม่ได้มีความฝัน ว่า จะได้ไปให้สุดแกรนด์ไลน์ แต่ว่า เขาต้องการจะไป ข้างหน้า ของแกรนด์ไลน์ และไปเจอ กับปลาวาฬ ลาบูน ที่เขาสัญญาไว้ว่า จะกลับไปหา และ เล่าเรื่องการผจญภัย ของกลุ่มโจรสลัด รัมบะ และเล่น เพลงสุดท้ายที่กลุ่มโจรสลัด รัมบะ เล่นไว้ ก่อนจะตาย ให้ลาบูนได้ฟัง ซึ่งถูก อัดไว้ใน โธนไดอัล เขากลัว ว่าลาบูน จะจำเขาไม่ได้ เนื่องจากตอนนี้เขาเป็นโครง กระดูกไปแล้ว และไม่มีอาโฟร เขาจึงทำทุกอย่างที่จะปกป้อง อาโฟร ของเขา และทำให้เขา เสียเปรียบ เพราะศัตรู จะเล็งแต่อาโฟรของเขา เช่น ตอนที่สู้กับริวมะ  บรูค แก่ที่สุดในกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง ด้วยอายุถึง50 ปี ด้วยกัน ถ้าไม่นับ มอนส์เตอร์ ของ ชอปเปอร์ อาจารย์ โอดะได้วางแผนไว้ว่า จะมี โครงกระดูกเดินได้ ที่เป็นนักดนตรี ประจำกลุ่มหมวกฟาง ตั้งแต่ ที่ ทำเรื่องเกี่ยวกับ ลาบูน ในปี 2000ซึ่งบรูค โผล่มาในปี 2007 บรูคถือดาบเอาไว้ และสามารถใช้ได้เก่ง อีกด้วย เขาสามารถใช้พลังของดาบ ของเขาร่วมกับเสียงของ ไวโอลิน เพื่อใช้พลัง ของเสียง โจมตี บรูคเคยเป็น นักสู้มาก่อน และเป็น ผู้ดักซุ่มโจมตี ของ ราชอาณาจักรแห่งหนึ่ง เพราะเขาเป็น โครงกระดูก เขาจึงมีความเร็ว ที่คล่องแคล่ว และ สามารถกระโดด ได้ สูงมาก เพราะเขาตัวเบา ตัวเขาเบามาก จนขนาด วิ่งบนน้ำได้ แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าเขาตกน้ำ เขาจะไม่สามารถว่ายน้ำได้ เพราะเขามีพลังของ ผลปีศาจบรูคเป็นนักดนตรี ที่เก่งอีกด้วย เพราะ เขาสามารถเล่น เครื่องดนตรีได้ทุกชนิด ได้อย่างมือโปรอีกด้วย บรูคบอกว่า เขาสามารถรักษาตัวเองได้ด้วย นม กระโหลกของบรูค สามารถเปิด ปิด ได้ด้วย และสามารถใช้เป็นที่เก็บของ และนั่นเป็นที่ๆ เขาเก็บ โธน ไดอัล เอาไว้

ค่าหัว

·33 ล้านเบรี


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น